Skip to content

ฉากละคร(3/6/54)

June 3, 2011

สมัยเมื่อก่อน
นั่งรถเมล์กลับบ้าน หลังเลิกเรียน
การจราจรกรุงเทพ ทำให้นั่งริมหน้าต่างใจลอย
ได้อย่างเพลินอารมณ์
ผมมักสนใจรถยนต์ข้างล่าง
พี่เล่นกับน้อง
พ่อแม่เล่นกับลูก
บ้างเด็กๆเล่นกันเอง
มันเป็นช่วงเวลารอคอยจะพบกัน
มองจากด้านนอกเหมือนหนังใบ้
บางทีรถเราเคลื่อนเลยไป
บางทีเขาแซงไป
จนบางทีติดพันจนต้องเหลียวตาม
หรือลุ้นให้มาเจอกันใหม่
สถาพในรถมีหลายแบบ
ตัวละครกระโดดไปมา
บ้างทำมือทำท่า
มีอุปกรณ์ประกอบฉาก
บ้างเดินกล้องตัวเดียวเห็นแต่คนนั่งเป็นตัวเล่าเรื่อง
ให้ชวนติดตามต่อ บางทีรถเราเคลื่อนนำไป
ทำฉากนั้นคลี่คลาย จบหักมุม
บางทีเราพอเดาเรื่องออกว่าเล่นอะไรกัน
บางทีก็เหนือจะจินตนาการ
บางคันเรากลับเวลาใกล้กันประจำ
เห็นบ่อยจนคุ้นเคย
จำนวน ลักษณะ เครื่องแต่งกาย
ของผู้แสดงบนรถ
และ ผมจะรออำลาในใจเมื่อถึงแยกที่ต่างจุดหมายกัน

เป็นธรรมดาตัวแสดง เปลี่ยนหน้าไปมา
ในฉากเดิมๆทุกวัน
จนบางทีเราเกิดคิดถึง รถที่เราถูกใจ ว่าหายไปไหน…

ช่วงเวลาผ่านไป ผมไม่ได้ผ่านเส้นทางนั้น
และไม่มีเวลามานั่งเหม่อลอย มองคนอื่นๆ

จนวันนี้
ผมเล่นกับลูกสาวบนรถในเรื่องที่เรารู้กัน2คน
มือซ้ายผมเป็น นกkevinจากเรื่องup
มือขวา เป็นลูกๆของkevin
มีเบาะคนนั่งเป็น blue eyes ม้าของwoody
ลูกสาวเป็นเจ้าหญิง
เป็นคนร้านเสริมสวย
เป็นพยาบาล
ผมเป็นพลธนู
เป็นคนไข้
คนมาตัดผม

ระหว่างนั้น ผมสังเกตุรถทัวร์ข้างๆ
คนบางคนบนนั้นมองผมอยู่….
ผมและลูกสาว เป็นนักแสดงแล้ว….^ ^

พาลูกสาวไป รร.

June 3, 2011

วันแรกที่ลูกไป รร. เราก็กลัวว่าลูกจะโดนใครแกล้ง
ลูกเรายังพูดยังฟ้องไม่เป็น
ดีที่มีลูกญาติไปเรียนด้วย2คน ตัวใหญ่ด้วย
ตอนแรก ไอ้เด็กลูกเขมรเหมือนจะมาเกเร กับลูกผม
พี่สะไภ้แฟนเห็นเลยดุมัน ไอ้เด็กเวรร้องไห้
และพี่สะไภ้ สั่งกับลูกสาวว่าใครแกล้งน้อง ตีมันเลย 555

วันที่สอง เหมือนมันจะมาแย่งของเล็กลูกผม แต่ลูกผมไวกว่า
แย่งคืนได้ มันได้แต่ยืนร้องไห้
วันที่3 ลูกสาวกลับมาพร้องบอกว่าโดน หยิก
ถามได้ใจความว่าคงเป็นไอ้ลูกเขมรนั้น
ลูกสาวบอกว่า เจอหยิก แฟนผมบอกว่า เจอใครแกล้งให้บอกคุณครูนะ
แฟนผมย้ำอีกที ระหว่างลูกสาวเล่นเกล้องวีดีโอเด็กเล่นบนโต๊ะอาหาร
“ใครแกล้ง หนูต้องทำอย่างไรคะ”.
“ต้องเอากล้อง ตีให้หัวแตก เลือดไหลเจ็บๆเลย”
สันติวิธีคงไม่เป็นผล แล้ว เหอ เหอ
เมื่อเช้าไป รร. ญาติอีกคนบอกกับลูกชายที่ทำผมหัวเม่น
ว่าใครแกล้งลูกผม
ให้เอาหัวเม่นทิ่มเลย
ไอ้หลานชายนั่งท่องจำตลอดทาง
พอถึงรร. ไอ้เด็กเวรนั้น เหมือนจะมาแกล้งหลานชายหัวเม่น
ลูกสาวผม เดินเข้าไป สาวคอเสื้อมันจากด้านหลังลงไป วัดพื้น
บทสรุป4 วัน โอเคสบายใจ

สัจจธรรม

June 3, 2011

บทที่1 บ้านเมืองระส่ำระสาย

วันนี้พาลูกสาวมาหาหมอ
พบว่าเจอเด็กเวรท่าทางเกเร ตัวดำๆหัวหยิกๆ
ลูกผมพาซื่อ จะไปเล่นกับมัน มันแสดงควาทเป็นเจ้าถิ่น แย่งของเล่นลูกผม ผมปล่อยดูไว้สักพัก ลูกผมก็ไม่ยอม เด็กผู้ชายเหมือนกัน ต่างไม่ยอมกัน ผมเลยเข้าไปห้าม กันลูกผมไว้ พบว่าแม่งไปแย่งของเด็กทุกคน
พ่อแม่เด็กคอยเข้าไปห้าม
แบบระวังและไม่ได้ด่าเด็กเวรนั้น
บางทีมันเดินมา เด็กบางคนก็ร้องไห้
บางที มันก็ไปผลักเด็กอื่นลงจากม้าโยก
บางทีก็ กระชากคอเด็กลองจากม้าโยก
พ่อแม่เด็กมาประคองเกือบไม่ทัน
บ่นด่าพ่อแม่มัน
บางทีมันไปแย่งของเด็กที่มีพี่ชาย เจอพี่ชายเขาขู่
มันก็หนีไปกวนคนอื่นต่อ
บางทีก็ ล้มของเล่น เข็นของเล่นไปชนคนอื่น
เด็กๆทุกคนนอกจากจะไม่สบายแล้วยังขวัญผวาเพราะมัน บางทีมันก็อยากเล่นสไลด์เดอร์คนเดียวเที่ยวขวางหรือผลักเด็กคนอื่นตก
ผมเห็นสายตาพ่อแม่คนอื่นที่มองด้วยสายตาที่เอือมระอาแต่ไม่มีใครอยากทำเด็ก
ต่างได้แต่ดูแลลูกตัวเองให้ปลอดภัย
และแล้วมันก็มาแย่งรถเข็นลูกผม ผมเข้าไปห้ามทันก่อนมันจะหยิกลูกผม ผมทำได้แค่มองด่ามันแบบดุๆ
ในใจ อยากตบพ่อแม่งมาก ไอ้สัตว์ ไม่ดูแลลูก…
ผมพยายามแยก ไม่ให้ลูกผมไปใกล้มัน
ซึ่งพ่อแม่คนอื่นก็เหมือนกัน มีบางคนบ่นลอยๆ
บางคนพยายามบอกลูกว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

บทที่2 ทรราชครองเมือง

พื้นที่ว่างตรงกลางเป็นของแม่ง
มันเล่นแบบเผด็จการคนเดียวคงไม่สนุก แล้วแม่งก็เริ่มระราน เพื่อเพิ่มพื้นที่ครอบครอง
มันเข็นรถไป ไล่ชน รถเด็กคนอื่นหลายครั้ง
พ่อแม่ต่างมองหน้ากัน ทำหน้าเจือนๆ
คราวนี้ยังไม่สาใจมัน มันปิดถนนแล้ว…
มันดับเครื่องชนเด็กเล็กมากที่เล่นม้าโยกอยู่อยากแรง ถอยซ้ำอีกๆ พ่อแม่เด็กได้แต่ประคองลูกตัวเอง….

บทที่3 สถานการณ์สร้างวีระบุรุษ

ในเวลานั้น ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้องฉันใด
ลูกผมก็เหมือนผมฉันนั้น
มันทนไม่ได้ วิ่งไปลากรถของเด็กเวรนั้นไปชนกำแพง
ยืนเท้าเอว จ้องหน้ามัน
แล้วบอกไปว่า “ทำอย่างนี้นิสัยไม่ได้นะ”
ผมเห็นพ่อแม่คนอื่น ต่างอมยิ้มสรรเสริญ
ดั่ง อัศวินม้าขาวมาช่วยทุกคนให้พ้นยุคมืด
และแล้วเด็กเวรนั้นก็กลับบ้านด้วยสภาพผู้แพ้แถมเจอฉีดยาร้องไห้(แม่มันเป็นเด็กแว้น มิน่าแม่งไม่ดูลูกเลย ห่า)

บทที่4 สันติสุขกลับมา

ลูกสาวผมเริ่มทำตัวเป็นคนของมวลชน
เที่ยวเอาทาโร่ ไปแบ่งเด็กและพ่อแม่แม้กระทั่งยายและเด็กทารก
ทุกคนมีทาโร่คาบในปากวิ่งเล่นกัน
และแล้วคลีนิกก็สงบ… ต่างแบ่งบันกันเล่น
มีแต่รอยยิ้ม
โดยมีลูกผมเป็นเหมือนเป็นผู้นำ…..
เที่ยวกำกับคนโน้นคนนี้เล่นให้เล่นตามคิว

บทที่5 อำนาจน่าหลงใหล

และแล้วสัจธรรมของมนุษย์และอำนาจก็ธรรมดา…
ลูกผมเริ่มไม่แบ่งของให้ใครเล่น
เริ่มแสดงอำนาจ เริ่มขวางสไลด์เดอร์
เริ่มแกล้งเด็กคนอื่น – -“

สังคมไทย

June 3, 2011

ตำบลที่ปลูกข้าวไม่ถึง พันไร่ แต่มี ชาวนาแจ้งความเสียหายจากน้ำท่วม เกินพันไร่ จน มีการร้องเรียน

ตำบลที่ปลูกข้าวมากสุดในอำเภอ กลับมีแจ้งความเสีย
หายน้อยสุด

สุดท้ายกลไกรัฐตรวจสอบ ตำบลที่ปลูกข้าวจริง สละสิทธิเยอะสุด ส่วน ตำบาแรกแม่งเสือกไม่สละสิทธิเลย

สรุป แม่ง ????

ยิ้ม

June 3, 2011

วันหนึ่งผมได้รับการไหว้วานจากเพื่อนเก่า ว่าให้ไปช่วยถ่ายรูปรับปริญญาให้หน่อย
ผมคงปฏิเสธงานี้ไม่ได้แม้ว่าไม่ได้คบหากันมานาน
แต่มันก็เคยเป็นเพื่อนที่สนิทกัน
และเคยทำเรื่องไม่ดีกับมันไว้เยอะ
เลย อยากแก้ตัว จึง รับปากว่าจะถ่ายรูปให้ด้วยความเต็มใจ

วันซ้อม ไปถ่ายให้มันที่สถาบันของมัน สถานที่ไม่คุ้น บรรยากาศไม่คุ้น
เพื่อนๆ มันเราก้อไม่รู้จักเลย
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ทำให้ ผม ต้องทำตัวเป็น ช่างภาพ นรินาม เงียบกริบทุกการเคลื่อนไหว
ตลอดช่วงเช้าผม พูดประโยคซ้ำกันเหมือนหุ่นยนต์ คือ “กล้องนี้ครับ” “อีกรูปนะครับ”

ที่ผ่านมา เพื่อนผม มันคุยนักคุยหนาว่า น้องสาวแฟนมันสวย แต่เป็นแค่ ประโยคที่นำมาอวด หาใช่
คิดจะทอดสะพานให้ผมเปลี่ยนจาก เพื่อนมาเป็นคู่เขยกับมัน แต่อย่างใด การแสดงออกถึงความ
เอ็นดูน้องเมีย( เมียเพื่อให้ได้อารมณ์ -ขอโทษมานะที่นี้) ของมันออกนอกหน้า แต่พอจะรักษา สมบัติผู้ดีบ้าง(หรือเปล่าวะ)

แน่นอนว่า น้อง ม. 5 กับ พวก ปี 5 อย่างผม มันทำให้ผมแก่ไปจริงๆ วัว(ควาย)แก่ๆ ใกล้เข้าโรงเชือด
คงไม่คิดจะกินอาหารมื้อสุดท้าย เป็นยอดหญ้าพันธุ์ดีจากทุ่ง ฮาราจุกุ (สมัยนั้นเกาหลียังไม่มา)
(ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Harajuku) ด้วยความต่างทำให้
ไม่สนใจเท่าไร ไม่ใช่บอกกว่า น้องไม่นารักนะ ถือว่าโอ เลยละครับ แต่อย่างที่ บอก
“พบไม้งามยามขวานบิ้น” เสียเวลาที่จะคิด (แต่เสียดายที่จะไม่คิด อิอิ )

การเป็นเครื่องบันทึกภาพแบบไร้เสียงรบกวนของผม ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
เสียงหัวเราะ เสียงแสดงความยินดี ท่าทางตลกๆ ที่แอ๊คท่าถ่ายกัน ผ่านโสต ทางหู ทางการมองเห็น
ของผมตลอด จริงๆ แล้ว ทางกลิ่นด้วย มันเสือกไปถ่ายกันในห้อง ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์(lab) เหม็นชิบ
แต่ เครื่องบันทึกภาพ ไม่ใช่ GPS บ่นไม่ได้
เพียงแต่แอบซุบซิบกับ Ram on board นิดหน่อยว่า แม่งทำท่ากัน ปัญญาอ่อนวะ
ถ้ากูคุ้นๆ กับเพื่อนมึงหน่อยกูจะ จัดท่าให้แม่งบ้ากันไปเลย

และแล้ว เครื่องบันทึกภาพ รุ่นเก่า ไม่มี soundcard และ Built in audio
ก้ออยากเป็นอะไรมากกว่าที่มันเป็น ….. ……..

เสื้อกล้าม สีดำ กางเกงยีนต์ รัด ติ้ว ก้อเดินเข้ามา พยายามนึกภาพตามนะครับ
สายตาเราอยู่แต่ใน frame อยู่ดีๆ ด้านหลังภาพมุม ซ้าย 11 นาฬิกา มี ส่วนโค้ง(curve) แปลกปลอม
ผ่านมา ติ๊ด ติ๊ด!! ภาพนั้นfocusผิดเลย 🙂

เครื่องบันทึกภาพรุ่นเก่า พอจับใจความจาก สรรพนามในบทสนทนา พอเข้าใจได้ว่า
เป็นน้องสาวของ บัณฑิตสาวทอมที่ซี้กับเพื่อนหัวงูหน้าหม้อของผมเอง
เครื่องบันทึกภาพ เริ่ม ทำงานเข้าที่หลังจาก tune in มานาน ตอนนี้มันจะ drop out ละ
เมื่อ เครื่องได้ที่ ดีเซล รอบช้า ก้อ เหมือนจะลืม หนังหน้าตัวเอง ออกอาการดี้ด้า เหมือน ตนเองเป็น เบนซิล รอบจัด
เครื่องบันทึกภาพ ออกอาการ จนเจ้าของเครื่องเริ่มเป็นห่วง จึง ดับเครื่องแล้วลง มาเปิดฝาดูอาการ
“มึงเป็นเหี้ยอะไร” มันกำลังเช็ดน้ำมันเครื่อง
“เปล่า” น้ำมันเครื่องไม่ขาด
“แล้วมึงยิ้มทำไม” มันเช็ดความตึงสายพาน
“เรื่องของกู เสือก” สายพานก้อไม่หย่อน
“โอเค” มันตัดสินใจเดินเครื่องเบาๆเพื่อฟังเสียง
“ว่าแต่……” เสียงเครื่องดังแปลกๆอีกครั้ง เหมือนจะ สูบขัด
“อย่าหวังไอ่สัด!! ” เจ้าของเครื่องย่อม เข้าใจเครื่องของตัวเองดี เป็นที่สุด
“ อะไรของมึง มึงรู้เหรอว่ากูจะพูดอะไร” เครื่องมันไม่ยอมจำนน ยังดันทุรัง ดื้อ ต่อไป
“กูบอกให้ ทอมน่ารนักนะมึง” มันเสมอ น้ำมันเครื่องแบบ ไม่ สังเคราะห์ 100% (semi-synthetic) มาให้
“อะไรของมึง” เครื่องยืนยัน ว่าต้องการ ระบบที่สะอาดในการเผาไหม้ ขอ fully synthetic กระป๋อง ดำ ขวดโค้ง สวย ๆ ฝาทอง(ผมทอง)ด้วย

การเลือกน้ำมันเครื่องยังไม่เป็นที่ตกลงกันได้ แต่การเดินทางยังต้องไปต่อ!!!!
เครื่องบันทึกภาพรุ่นเก่า ถูกปลุกให้ตื่น และมีแรงม้าไม่แพ้ เครื่องใหม่ๆ

เชื่อมั่นใน ข้อดีของเครื่องรุ่นเก่าคือความ อึด !!!
แต่ลืมนึกถึงข้อเสียของเครื่องรุ่นเก่า อีกข้อคือ หาอะหลั่ยไม่ได้ !!!!!!!

ถ้าเป็นหนัง คงจะ soundtrack ประมาณ Rain Drops Keep Falling On My Head
ส่วนเจ้าเครื่องบันทึกภาพ รุ่นเก่า ก้อ กระโดด ดี้ด้า ไปตาม จังหวะเพลง
มันเป็นแค่เรื่องขำๆ ในชีวิต ผมไม่ได้คิดจริงใจ แค่ แอบๆ สนุกกับชีวิตนิดหน่อย

เมื่อ น้อง ชุดดำรัดติ้ว อยู่ในเฟรม “ กล้องนี้ครับ! ” sound alert ของเครื่อง มันดังผิดปกติ
ต่อมา สองสาว น้องว่าที่บัณฑิตใหม่ ประชันโฉมกัน ทำให้เรา ต้อง เปลี่ยนเกียร์ เป็นclose up mode
ใส่ ขับเคลื่อน สี่ล้อ ทันที ที่ผ่านมา ต้องถ่ายคนเยอะๆ ไม่ได้ close เน้นๆ เลย
เสียงเชียร์ หยอกการประชันโฉม พอมี ให้ขัดอารมณ์ เจ้าเครื่องเคยใหม่บ้างเล็กน้อย

ด้วยอายุการใช้งานที่เก่า บวกกับการที่ไม่เคยดูแลเครื่องยนต์
เครื่องรุ่นเก่า ตระหนักได้ว่า ที่ผ่านมา
สิ่งที่เคยเข้าใจมานาน อาจจะผิด แล้ว ก้อ
เหมือนเริ่ม turn on ใหม่

น้องสาวแฟนเพื่อนที่มันชอบเอ็นดูจนออกนอกหน้า สาว นักเรียน ม. อ่อนหวาน แบบ ใสๆ
น้องสาวทอมที่เพื่อนมันยัดเยียดให้ผม สาว ปี สอง ม. เอกชน โฉบเฉี่ยวมีสไตล์

ประเด็น ไม่ใช่ว่าใคร สวยกว่ากัน มันแล้วแต่คนจะมอง (เคยฟังพลง บัวตูม บัว บานไหมครับ)

คือเรื่องของเรื่องคือ ผมแพ้ รอยยิ้มครับ รอยยิ้ม ของ น้อง มัธยม จริงๆ

เวลาเรามอง เฟรม น้อง เขาก้อมองกล้อง
มันเป็นช่วงเวลาแบบ ว่า ตามองตา สายตาก้อจ้องมองกัน รู้สึกเสียวซานหัวใจ จริงๆ นะครับ

รอยยิ้มของน้องเขา เวลามองกล้องน่ารักดี มันเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆ คงเพราะไม่เคยมีใครยิ้มให้ผมมานานมาก และผมก็เป็นคนไม่ชอบมี eye-contract กับใครนานๆ แต่เวลาถ่ายรูปตาผมอยู่ที่ช่องมองภาพ เห็น น้องเขามองกล้อง(เหมือนมองมาทางผมเลย) รอยยิ้มสดใส น่ารักตามวัย มันเป็นความรู้สึกเหมือนมีคนมายิ้มให้ แล้วผมก็ไม่หลบตา (เพราะธรรมดา ไม่ชอบมองตากับใคร ส่วนใหญ่จะโดนจับโกหกได้เวลาจ้องตา เลยชอบมองโน้นมองนี่เวลาคุย) มันเป็นความรู้สึกดีมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนมันเหมือน โลกส่วนตัวจริงๆ เวลามองผ่านช่องมอง มันมีกรอบสีดำปิดบังสายตา มองไปเห็นหน้าและรอยยิ้มของน้อง จะพรากกันก้อแค่ ตอนได้ยินเสียงลั่นชัตเตอร์เท่านั้น ยังดีนะ ถ้าน้องเขาทำท่าส่งจูบมา เห็นที เครื่องแก่ๆ คงสำลักน้ำมันแน่ๆ ตายห่า คาที่แน่ๆ
น่ารัก โอ้ !.. อยากตั้งกล้อง นานๆ จัง เลย (ไอ้เพื่อนผมนี่ก็แปลก ถ่ายกับน้องแฟนมากกว่าแฟนมันหลายเท่า เลวจริง แสรด ตอนล้างมา แฟนมึงจับความประสงค์ของมึงได้แน่ๆ )

ตอนแรก ก็อายหลบตาบ้าง ไอ่ห่า… จะอายทำไมวะ เขาไม่รู้หรอกว่าเรามอง กล้องก็บังอยู่ และ ถึงมองก็ไม่แปลก เพราะเครื่องบันทึกภาพรุ่นเก่า ไม่จอแสดงผล โว้ย ต้องมองจากช่องมองอย่างเดียว ไม่มอง ก็ถ่ายไม่ได้สิ
นั้นแน่.. พอคิดได้เช่นนี้ กามนิตแก่ ๆ ก้อเดินเครื่องเต็มพิกัด แบบไม่กลัว เครื่องน๊อก เลย
แต่เครื่องรุ่นเก่า มีรวนบ้าง เวลามองน้องเค้ายิ้มให้ แอบเขินนิดๆ ไม่รู้อายทำไม บ้าจริงๆ
แล้วยิ่งเครื่องรุ่นเก่า มันดันเสือกไป อัฟเกรดตัวเอง ให้มีระบบ มีการ focus เฉพาะจุดเสียด้วย กลัวภาพออกมามันจะชัดแต่น้องเขา (โอ้ ลำบากใจ จริงๆ เครื่องบันทึกภาพ ลำเอียง……….)

ถ้า มองแบบ ฉากให้หนัง ก้อประมาณว่า ยิงกล้อง ในเหตุการณ์ อ้อม มาหลังผม แล้วทะลุไป เป็นภาพในเฟรม เสียง sound effect เป็นเสียง ลมตี วูบหนึ่งแล้วเงียบไป
ตัดเข้ามาใน เฟรม กรอบดำๆ มีแค่เสียงลั่น ชัตเตอร์ เปลี่ยนภาพ น้องๆ ไปเป็นเฟรม เฟรม

สวรรค์มัก ช่วยให้ คนใกล้ตายให้สมปราถนา สักครั้ง ฉันใด
ว่าที่คู่เขย ช่วยจัดให้ ครื่องรุ่นเก่า ใกล้ โดนโละ แยกชิ้น ได้ใกล้ชิดกับ น้ำมันเครื่อง
สังเคราะห์ 100% มีค่า SJ ฉันนั้น
( sj=มตาฐาน ในการ ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีกว่าและมีค่าฟอ สฟอรัส ที่ต่ำกว่าจะช่วยให้เครื่องกรองไอเสียใช้งานได้นานขึ ้น)

ระหว่าง รอเพื่อน และพี่สาว เข้าไปซ้อมพิธี 2 ชม.
เพื่อน(ว่าที่คู่เขย) แฟนเพื่อน(ว่าที่พี่เมีย) ได้ฝากฝั่ง ลูกแกะ ไว้ในกำมือ หมาป่า 55555555555
อยากจะหัวเราะให้ดังถึง ตลาด หัวตะเข้
ไม่ได้ !! เราต้อง มาดขรึม เป็นผู้ชาย โทน เข้ม!!!

ทั้งนี้ไม่ได้ คิด เจ้าชู้ นะครับ ตอนนั้น เมารอยยิ้ม น้องเขาไปนิดหน่อยเอง
ตอนนี้เครื่องบันทึกภาพรุ่นเก่า เปลี่ยนสถานะ เป็น รปภ. ส่วนตัว ป้องกันเครื่องบันทึกภาพไก่กา
ที่จะมาถือโอกาสขอบันทึกภาพโดยไม่ได้ขอ เจ้าของ ลิขสิทธิ์
วิธีป้องกัน พวกเครื่องจีนแดง ไก่กาไร้คุณภาพ คือ
หา มุม เงียบๆ ไม่ค่อยมีคน หาที่นั่งใต้ร่มไม้ ลมพัดเย็นๆ
สบายๆ ชิวๆ

ไม่อยากจะบอกว่า สองต่อสอง 55555555555555555

อยากหัวเราะให้ดังถึง หลวงหลวงแพ่ง (ดังกว่าเดิมมาก )

ทำเล สงบแต่ไม่สงัด ที่ผมเล็ง คือ ศาลา ริมน้ำ มีแนวต้นรำเพยริมน้ำเป็น ที่บังตา ข้างๆลานจอดรถ ด้านหลังตึก (ขอย้ำ ด้านหลัง 55555 )
เมื่อ เด็กเลี้ยงแกะ (ไอ่เพื่อนชั่ว) ไม่อยู่ หมาป่าอย่างผม ก้อค่อยๆ ต้อน ลูกแกะ ขนฟูๆ ไร้ทางสู้ ไปในที่หมายได้อย่างง่ายดาย ไม่มีการขัดขืน แม้แต่น้อย
ผมเริ่มเสนอ แผนนปองดรอง กับน้องเค้า โดย ถามเรื่องทั่วๆไปก่อน

บทสนทนา ฉันคนไกลตัวเริ่ม เปลี่ยนไป

แต่ผมยังรักษา ระยะ ปล่อยให้ การสนทนาเงียบไปบ้าง ( เด๋วเขาจับได้ว่าไร้สาระ….)
สายลมอ่อน เงียบๆ คนผ่านไปมาแค่พอให้ไม่เหงา ควันรถนิดหน่อย
นี่มัน โชคเข้าข้าง หรือ คิวปิก รับสินบนกูวะนี่ แต่….

สวรรค์ ให้จิ้วยี่ เกิดทำไมต้องให้ ขงเบ้งเกิดด้วย

สงสัย ลมพัดเย็นเกินไป หลับ สิ
….
….
เชื่อไหมครับ ผม หลับ ….. หลับ จริงๆ ไม่ได้แกล้งหลับ ไม่ได้หลับแวบๆ หลับลึกๆ เลย
ไอ่ห่า จะโทษใครไม่ได้นอกจาก
พวกเลวๆที่คณะ
ไอ่พวกไม่ยอมหลับ ยอมนอน
ไอ่พวกรอกินเป็ด ตอนเช้า
ไอ่พวกนอนตอนพระบิณฑบาต
พวกมึงเข้า นอน แต่กูตื่นมาถ่ายรูป พวกมึง ทำกูหลับ พวกมึง …..
ผมนั่งหลับ ส่วนน้องเขา นั่งอ่านหนังสือ อยู่ตรงข้าม
คงนึก สงสารเครื่องรุ่นเก่า ที่ถ่อสังขาร มาทำงานในวัยใกล้เกษียณ
ผมมา รู้สึกตัวอีกที ตอน เพื่อนชั่วมันโทรมา “ มึงอยู่ไหนวะ ไอ่สัด” “รีบมาถ่ายรูปหน่อย พ่อกูมาแล้ว” มันโม้ครับ มันแค่ ห่วงน้อยเมียออกนอกหน้าครับ ผมเชื่ออย่างนั้นมาเสมอ 555

พอถึงวันจริง ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ผมยังแอบเขิน เวลาน้องเขา ยิ้มให้ผม(ตอนถ่าย)

ขอย้ำ นะครับ
มันเงียบจริงๆ เวลาเราอยู่ด้วยกันสองคน มองตากัน เหมือน มีแค่เราสองคนจริงๆ
ขอย้ำอีกที ว่า ตอนถ่ายรูปเท่านั้นนะครับ

งานนี้ ผมบอกเพื่อนว่าไม่เอาเงินนะ เพื่อนกัน
มันเลยให้เหล้าผมมาขวด สุดท้าย เหล้านั้นก้อต้องมาแบ่งไอ่พวกนักเลงท้องถิ่น
ที่ทำให้ผมหลับวันก่อนนั้นอยู่ดี
ส่วน พื่อนผมมันเฉลยอีกว่า ที่ จะยัดเยียดทอมให้ผม จีบเพราะ
“มึงจะ ได้มีน้องเมีย สวยๆ แล้ว จะได้เข้าใจความรู้สึกกู !!”

สุดท้าย ผมก้อปล่อย ให้ทุกอย่างผ่านไปโดยไม่ คิดจะทำอะไร
เจียมตัว … ว่ะ

ได้รูปคู่กับน้องเขาเป็นที่ระลึกมาหนึ่งใบ
( ดันทำหน้าตลก ทำห่าอะไร ๆวะเรา)
เป็นสิ่งประทับใจ ที่ผม เก็บไว้ และคิดว่าคุ้มค่า ละ

ขอย้ำ ว่า บริสุทธิ์ใจ จริงๆ ไม่ได้คิดอะไร นอกจากว่า
รอยยิ้ม สวยดี จริงๆ โอ้ มาย……

ขอจบเรื่องนี้ ไว้ด้วยบทเพลง บาว-ปาน ท่องนี้ครับ

“จำใจยอมจำนน ทนกล้ำกลืนความหวัง จะอยู่ห่างๆ อย่างเข้าใจ
ให้ดอกไม้สวย ได้บานบนกิ่งและก้านใบ และคอยพรวนดิน
ไกลๆ ด้วยสายตา ก็ชื่นใจ”

เสื้อตัวเก่า

June 3, 2011

วันนี้ผมหยิบเสื้อตัวเก่าตัวนึ่งขึ้นมาใส่นอน ทำให้นึกถึงเสื้ออีกตัวที่เก่ากว่า
เสื้อผ้าสำหรับผมเป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยใส่ใจเท่าไร ไม่สนเรื่องความสวยงาม
สมัยนิยม หรือ ยี่ห้อหรูหรา บอกตรงๆชอบแต่งตัวเจ็กๆ มันเป็นความมักง่ายส่วนตัว
มีเสื้อ อยู่ สองตัว ที่ผมจำได้และมีความสุขทุกครั้งที่ใส่มัน

ตัวที่ใส่อยู่นี้ ได้มีบุพเพสันนิวาสกับผมเพราะ วันนึ่งนึกสนุก ชวนแฟนที่ท้องอ่อนๆ
ขับรถไปเข้าตีเมืองจันท์ นั่งกินเบียร์กับปูดำราคาถูกชนิด กอทอมอ หาไมมี
ที่หาดแหลมสิงห์ หาดเล็กๆ ทรายไม่สวย ต้นสนเยอะเกิน แต่ ครึ้มใจ
เลย เทเรโฟนไปยื่นข้อเสนอที่เชื่อว่าเพื่อน ปฎิเสธไม่ได้ แล้วก้อจริง มันโอเค
เจอกันครึ่งทาง ที่เมืองน้ำปลา (ระยอง) เบียร์ สองขวดหมด ในบัดนั้น
พร้อมกับการ ไปเดินสรรพสินค้า กลางเมืองจันท์ เพื่อหาเสบียง และ แน่นอน
ผมได้เสื้อตัวนี้มาสำหรับ คืนการต่อสู้ ในวงสุราอันยาวนานที่หาดแม่พิมพ์
ทุกวันนี้เสื้อตัวนี้แขนเสื้อขาด ผมก้อยังใส่มัน เพราะ มันขาดเป็นริ้วๆ
ดัน…โชคดีที่ไอ่ บูดาเบส(เขียวเหลืองแดง) มันดันชอบใส่เสื้อ ขาดๆ
ทำให้ผมแอบอินเทรน ติดตลกเวลาคนถาม ผมตอบว่า “กรีดเอง แฟชั่นๆ
บูดาเบสไง ไม่รู้จัก??” แฟนด่า ว่าเอาไปทิ้งเหอะ ผมถามแฟนว่าจำวันนั้นได้ไหม
เราชวนมันมา แล้วมันมา เลย เสื้อตัวนี้ไง … แฟนผมเงียบไป เหมือนเข้าใจแต่ไม่เห็นด้วย
ช่างมันยังไง ซะผมยังใส่เสื้อตัวนี้ ไปไหนมาไหนได้ไม่อายใคร
ถึงมึง อยากกินเหล้า ริมทะเลกับมึงอีกวะ ไอ่ดื้อ!!!
ส่วน
ตัวหลังอายุแก่กว่า ตัวที่ผมใส่ขณะพิมพ์อยู่นี้ มาก ชาตะเป็นช่วง อะเมสซิง ไทยแลนด์
ปี เก้าแปด โดยประมาณ ส่วนมรณะ นั้น ยากมาก ไม่รู้ทำไม???
ช่วงปีนั้นเป็นช่วงเวลาของการติว เพื่อเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา ผมกับเพื่อน
เราตกลงใจไปติวที่ มหาวิทยาลัยดัง ย่าน ท่าช้าง เรามักหาอะไรกินกัน หลังเลิกเรียน
เดินเรื่อยเปื่อย คุยกันไร้สาระ ไปเรื่อยๆ เป็นธรรมชาติของวัยรุ่น แต่ที่ขาดไม่ได้คือหาที่เล็ง สาวๆ
แน่นอน ร้าน ไอติม บริเวณริมเจ้าพระยา ท่าเรือ ท่าช้าง ช่างเป็นโลเคชั่นที่ดี ควบ สามมหาลัยเลย
ธรรมดา ร้านขาย สะโลวาเนียร์ จะเป็นอะไรที่ เมินมากๆ จนมาเจอร้านขายของที่ระลึกให้ชาวต่างชาติ
ร้านหนึ่ง เรา เจอ เสื้อ ตัวนี้ แบบว่า เป็น เสื้อยืด แขนสั้นสี ดำ สกรีน ลายหัวโขน
ด้านหลังเป็นตรา อะเมสซิง ไทยแลนด์ ไม่รู้ประทับใจอะไร กัน เรา ชอบมันคนละลาย
ผม เลือกที่จะเป็น ราชาเผ่ายักษา ณ ลงกาแลนด์ โดยที่ ของมันผมจำไม่ได้
ว่า ไฟลั่มเดียวกันหรือเปล่า ช่วงนั้นกระแส เสื้อ ยืด แบบขายนักท่องเที่ยว
เช่น ไม้ขีดไฟพญานาค กระทิงแดงเป็นที่นิยมมาก ทำให้บักหนุ่ม อย่างผม
แอบแซบ เข้ากระแส บ้าง เสื้อตัวนี้ เป็นหนึ่งใน เฟเวอร์ ลิก ที เชิต ของผมก้อว่าได้
สุดท้าย มหาวิทยาลัยที่หวัง อุตส่าห์ เฝ้าติว แอบทำตัวเนียนๆ มานาน ก้อพลาดท่า
ผม ยังโชคดีที่ เพื่อนของผม ตามมาติดเป็นรุ่นน้องต่างสาขา วิชากับผม
ผมแทบจะลืมเสื้อตัวนั้นไปแล้ว จนปีหลังๆ ของการศึกษา เพื่อนผมมาช่วยงานผม
เรา ดัน ใส่ เสื้อตัวนั้น กันมา ป๊ะ กัน พอเราต่างเห็นเสื้อของกัน….
เรื่องต่างๆ ไหลออกมา ท่วมห้องนั้น
เราคุยกันถึง ที่มา วันที่ซื้อ ร้านไอติม เหล่ สาว พี่ติว และอื่นๆ
ใครจะนึกว่า เราต่างฝัน จะเรียน เราได้เรียน แม้ไม่ค่อยตรงกับฝันเท่าไร
แต่เรา ยังเป็นเพื่อนกัน ยังใส่เสื้อตัวเก่า ยัง มีเรื่องราว ที่เป็น อดีต ดำเนินอยู่
และจะดำเนินต่อไปในอนาคต( เท้นส์ไหนจำไม่ได้ แต่จำได้ว่ามันมี)
มันเติมเรื่องที่ผมลืม ผมแซวเรื่องที่มันลืม เราหัวเราะเรื่องที่เราลืม
แล้วเราก้อคุ้ยมันขึ้นมาได้ แบบว่า ต่อกันคนละประโยค …..
ต่อมา ผมห่างจากเพื่อน คนนี้ไปมาก แต่ทุกครั้งที่เห็นเสื้อตัวนี้ ในตู้
ก้อทำให้ผมยิ้มได้ ไม่รู้มันจะรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า
เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก ผมกลับบ้านอีกที อาภรประจำกายผม
กลายเป็น ที่รองพระบาท ทางออกไประเบียงไปซะแล้ว
บท วิวาทะ ระหว่างพระมารดากับ อ๋องสี่ เกิดขึ้นเล็กน้อย
เมื่อพระมารดาเห็น ลูกยา หยิบผ้าขี้ริ้วมาใส่ ต่อหน้าต่อตา
ทำให้ อ๋อง อดออกไปประพาส ชิมหูฉลาม ฮั่วเซ่งฮง
กับพระราชนิกุลเพราะอ๋องนอนยัน ว่าจะทรงเสื้อขี้ริ้วไป เสวยพระกะยาหาร
แต่ช่างมัน ผมไม่แคร์ เสื้อตัวนั้น ยังอยู่ เผื่อ สักวัน ลูกๆ ของเรา
อาจจะได้เป็นเพื่อนกัน และ เห็นมิตรภาพของพ่อกับพ่อ
สำหรับเสื้อตัวนี้ หลังจากนั้น ผมทำ MOU กับแม่ ว่า ควรอนุรักษ์ไว้
ในฐานที่มิตรภาพมันยิ่งใหญ่ แม่ผมเหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เห็นด้วย
แต่……………..
การย้ายที่อยู่บ่อยๆ ของผม ทำให้ เสื้อตัวนั้นหายสาบสูญไป
โดยที่ทิ้งร่องรอยไว้ตามรูปภาพ ที่ถ่ายตอนผมใส่ และ ทิ้งปริศนาว่า
“กูไปเมาแล้วทิ้งไว้บ้านใครวะ”

ทั้งนี้เพราะผมรักเสื้อตัวสองนี้มาก รักแบบ ไม่ทะนุถมอน รักแบบ ใช้งานจริงๆ
รักแบบ ใส่แล้ว เดินยิ้มคนเดียวได้

อย่าเก็บเสื้อตัวเก่า ไว้ในตู้ เอาอดีตออกมาเดินอวด โดยไม่ต้องแคร์ แฟชั่น!!

Hello world!

June 3, 2011

Welcome to WordPress.com. After you read this, you should delete and write your own post, with a new title above. Or hit Add New on the left (of the admin dashboard) to start a fresh post.

Here are some suggestions for your first post.

  1. You can find new ideas for what to blog about by reading the Daily Post.
  2. Add PressThis to your browser. It creates a new blog post for you about any interesting  page you read on the web.
  3. Make some changes to this page, and then hit preview on the right. You can alway preview any post or edit you before you share it to the world.